ตลาดน้ำวัดสะพาน
ตลาดน้ำบรรยากาศอบอุ่นตั้งอยู่ภายในวัดสะพาน เที่ยวที่เดียว
ทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารในตลาดน้ำวัดสะพาน ทั้งอิ่มบุญกับหลวงพ่อโต หลวงพ่อกลาง
และหลวงพ่อดำ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร
เวลาทำการ
เบอร์โทรศัพท์
02-424-1742 (สำนักงานเขตตลิ่งชัน)
วิธีเดินทาง
รถโดยสาร
รถสองแถวสาย 1417 (วัดกระโจมทอง) ขึ้นที่ปากซอยจรัลสนิทวงศ์ 35
รถส่วนตัว
- จาก ถ.บรมราชชนนีขึ้นสะพานข้ามคลองบางกอกน้อยผ่าน สน.ตลิ่งชันจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่
ถ.ราชพฤกษ์ขึ้นสะพานข้ามคลองตรงไปกลับรถที่แยกบางแวก ข้ามสะพานบางเชือกหนังแล้วชิดซ้ายเลี้ยวเข้า
ถ.ปากน้ำ - กระโจมทอง แล้ววิ่งตรงไปวัดสะพานอยู่ซ้ายมือ
- จาก ถ.จรัญสนิทวงศ์เลี้ยวซ้ายเข้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13
วิ่งตรงมาเจอแยกบางแวกแล้วเลี้ยขวาเข้า ถ.ราชพฤกษ์
ข้ามคลองบางเชือกหนังแล้วเลี้ยวซ้าย เข้า ถ.ปากน้ำ-กระโจมทอง
แล้ววิ่งตรงไปวัดสะพานอยู่ซ้ายมือ
การเดินทางไปยังตลาดน้ำวัดสะพาน
วิ่งมาตามถนนราชพฤกษ์
(มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี)แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนปากน้ำ-กระโจมทอง ประมาณ 1 กิโลเมตรจะเจอวัดสะพาน
ย่านตลิ่งชันแถบนี้
ยังมีตลาดน้ำน้องใหม่อีกแห่งที่ตั้งกันมาไม่กี่ปีนี้เอง คือ ตลาดน้ำวัดสะพาน
ที่ถ้าเทียบรุ่นกับตลาดเก่าแก่อายุเป็น 100 ปี
ที่นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นชั้นรุ่นเหลน แต่เสน่ห์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของตลาดน้ำในย่านนี้ก็คือ
ตลาดในเมืองกรุงที่ยังมีกลิ่นอายของชุมชนชาวสวนริมคลองให้ได้มาสัมผัส
ตลาดน้ำวัดสะพาน คืออีกหนึ่งแหล่ง กิน ช้อป
ยอดนิยมในย่านในกลางกรุงเทพมหานคร โดยตลาดน้ำนั้นตั้งอยู่ในวัดสะพาน
ริมคลองบางน้อย ถนนปากน้ำ-กระโจมทอง แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
ภายในตลาดน้ำจะมีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าจำพวกอาหาร ขนมหวาน
ผักและผลไม้จากสวนมาจำหน่ายภายในตลาดกันเป็นจำนวนมาก โดยตลาดน้ำวัดสะพาน วัดสะพาน
เปิดบริการ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-15.00 น.
นอกจากนี้แล้วตลาดน้ำวัดสะพาน ยังเป็นหนึ่งในตลาดน้ำในกลุ่มชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืน
ที่ประกอบไปด้วยตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
แล้วก็ที่ตลาดน้ำวัดสะพานแห่งนี้
โครงการชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืนที่ว่านี้เป็นความร่วมไม้ร่วมมือกันระหว่าง
ผู้ดูแลพื้นที่คือ กรุงเทพมหานคร ที่มีกองการท่องเที่ยวเป็นเจ้าภาพ กับ
มหาวิทยาลัยศิลปากร
ที่จะส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนโดยผ่านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
บรรยากาศที่นี่จะเป็นยังไง ลองตามมาชมกัน
ตัวตลาดอยู่ในบริเวณวัดสะพาน
ที่ตั้งอยู่ริมคลองบางน้อย ตัววัดจะหันหน้าเข้าสู่คลอง
ที่เป็นเส้นทางคมนาคมหลักในอดีต ส่วนด้านที่เป็นถนนเข้ามาที่วัดนี้
ชาวบ้านจะเรียกกันว่าด้านหลังวัด
เรียกว่าย่านนี้ยังคงความเป็นเป็นย่านสวนชานกรุง
ที่ถ้าจะลองเปิดแผนที่ดาวเทียมกันดูก็จะเห็นว่าย่านนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวเป็นบริเวณกว้าง
ต่างจากพื้นที่รอบออกไปที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนเพราะงั้น
บรรยากาศแบบที่เห็นในรูปก็อยู่กันข้างวัดสะพานนี่เอง
ริมน้ำหน้าวัด แน่นอนว่ามาเลี้ยงอาหารปลากันได้บรรยากาศรอบ ๆ ก็เขียวไปด้วยต้นไม้อย่างนี้
ถ้าอยากจะนั่งเรือเที่ยวบ้าง ที่นี่ก็มีให้บริการกันอยู่ จะเลือกเป็นโปรแกรมล่องเรือไหว้พระ
9 วัด
หรือล่องไปเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยม สวนกล้วยไม้ นี่ก็ได้ ค่าบริการคนละ 100 บาท แต่ต้องมีอย่างน้อย 5 คน
ถ้าไม่ถึงอาจจะต้องเหมาไปลำละ 600 บาท
สนใจจะใช้บริการล่องเรือ
ก็มาติดต่อได้ที่ซุ้มดอกไม้ธูปเทียน ที่อยู่หน้าทางเข้าวิหารได้
แล้วยังไงถ้าจะไม่ไปเต็มทั้งโปรแกรม
อย่างถ้าจะไม่ไปครบทั้ง 9 วัด หรือจะไปเที่ยวสวนกล้วยไม้สักแห่งเดียวก็พอ
ก็อาจจะลองต่อรองราคากันดูอีกทีได้ เพราะเรือที่นี่จะไม่ได้มีแบบออกเป็นรอบ ๆ
ตามเวลา
มาถึงหน้าวิหารแล้ว ชวนเข้าไปกราบพระกันก่อนที่ซุ้มหน้าทางเข้า จะมีจัดเครื่องบูชา ดอกไม้
ธูป เทียน เอาไว้ให้ แล้วก็มีตู้ให้หยอดบริจาคตามแต่ศรัทธา วิหารที่นี่เรียกว่า วิหารโถง
หรือก็คือเป็นวิหารที่เปิดโล่ง ไม่มีผนัง
แต่เดิมตรงนี้เคยเป็นวิหารหลังเล็ก
3 หลังเรียงกัน
แต่ความผ่านกาลเวลาจนชำรุดทรุดโทรม ญาติโยมก็เลยร่วมใจกันสร้างใหม่
ให้เป็นวิหารใหญ่หลังเดียวกันไปเลย
เพราะอย่างนี้กระมัง ในวิหารก็เลยตั้งพระพุทธรูปอยู่เป็นหมู่ 3 ชุดด้วยกัน
คงจะตั้งไว้ให้เหมือนกับสมัยเมื่อยังมีวิหารแยกกันเป็น 3 หลังอยู่ที่วัดสะพานนี้เชื่อกันว่าเป็นวัดเก่าแก่มีมาอย่างน้อยก็ตั้งแต่สมัยอยุธยา
แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่บ้านเราจะไม่พบบันทึกว่าวัดสร้างกันขึ้นในสมัยไหน
เราก็อาศัยคาดเดาได้จากพระพุทธรูปเก่าแก่ที่พบอยู่ที่นี่ ที่มีทั้งที่ยังมีสภาพค่อนข้างดีหรือที่ชำรุดแบบนี้ไปแล้ว ส่วนพระพุทธรูปสำคัญที่ผู้คนในย่านนี้ศรัทธากัน ก็คือ หลวงพ่อดำ
หลวงพ่อโต
หลวงพ่อกลาง
สำหรับใครต้องการจะถวายสังฆทานพระ ก็เชิญได้ที่ด้านข้างหลวงพ่อโต
แล้วถ้ากล่าวคำถวายไม่ถูกก็ไม่เป็นไร มีมรรคทายกวัดอยู่คอยช่วยนำกล่าวให้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น